เด็ก

สุขอนามัยช่องปากที่ดีสำหรับเด็ก

สุขอนามัยช่องปากที่ดีสำหรับเด็ก article banner
Share

หลายคนคงสงสัยว่าเมื่อใดควรเริ่มส่งเสริมนิสัยการดูแลสุขอนามัยในช่องปากที่ดีให้กับบุตรหลานของท่านกันนะ?

ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญย้ำอยู่เสมอว่า ยิ่งเริ่มปลูกฝังนิสัยการดูแลสุขอนามัยช่องปากที่ดีให้กับบุตรหลานได้ไวเพียงใด เด็กๆก็จะมีฟันที่สวยงามและแข็งแรงในอนาคต

ดังนั้น การดูแลฟันตั้งแต่แรกเกิดเป็นสิ่งสำคัญ หากฟันน้ำนมสุขภาพดี โอกาสที่ฟันแท้จะแข็งแรงก็เป็นไปได้มาก การดูแลสุขอนามัยช่องปากรวมถึงการแปรงฟันในตอนเช้าและเย็น การนัดตรวจฟันกับทันตแพทย์ และจำกัดการรับประทานขนมระหว่างมื้ออาหาร จึงเป็นสิ่งที่ควรปลูกฝังนิสัยตั้งแต่เด็กๆ

0 - 2 ปี

ถึงแม้ฟันของเด็กในช่วงวัยนี้จะเป็นเพียงตอฟันและมีเหงือกคลุมอยู่ทั้งหมด แต่เราก็สามารถดูแลสุขอนามัยช่องปากให้ดีได้ โดยวิธีทำความสะอาดในช่วงเดือนที่6 ถึงเดือนที่9 ให้ใช้ผ้าก็อชหรือผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำแล้วเช็ดอย่างน้อยสองครั้งต่อวัน จะช่วยขจัดเศษอาหารตกค้างและแบคทีเรียออกจากเหงือกและช่องปาก หลังฟันขึ้นสองถึงสามวัน ให้เริ่มแปรงฟันด้วยน้ำเปล่าโดยใช้แปรงสีฟันสำหรับทารก ที่มีลักษณะเป็นขนแปรงอ่อนนุ่มพิเศษเหมาะกับช่องปากของเด็กโดยเฉพาะเท่านั้น หลังจากนั้นปรึกษากับทันตแพทย์หรือกุมารแพทย์เพื่อหาเวลาที่เหมาะสมจะเริ่มใช้ยาสีฟันสำหรับเด็ก การรักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดี สำคัญอย่างยิ่งในเดือนแรกๆของช่วงวัยทารก ไม่เช่นนั้นอาจะเกิดปัญหาฟันผุตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ฟันผุจากการดูดขวดนม” ซึ่งเกิดขึ้นได้บ่อยในเด็กทารกที่ต้องดื่มนม อาหารบดและน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลอยู่เป็นประจำ ดังนั้น จึงควรนำขวดนมออกห่างจากทารกทันทีหลังจากดูดนมหมดและไม่ควรให้เด็กหลับคาขวดนม

เมื่อมีอายุครบหนึ่งขวบ ควรจะพาเด็กๆไปพบกับทันตแพทย์เป็นครั้งแรก เพื่อตรวจดูสุขภาพฟันและเพื่อให้เด็กได้มีโอกาสทำความคุ้นเคยกับคลินิกทันตกรรม ซึ่งจะช่วยลดความกลัวหมอฟันในอนาคต

อายุมากกว่า 2 ขวบ

เมื่อทารกอายุครบสองขวบ เราควรเริ่มต้นใช้ยาสีฟันสำหรับเด็ก (มีฟลูออไรด์) ซึ่งช่วยป้องกันฟันผุ เราอาจบีบยาสีฟันจำนวนน้อย ๆ ลงบนแปรงก่อน และดูให้แน่ใจว่าเด็กๆบ้วนยาสีฟันออกมาจนหมด หลังจากนั้นทำความสะอาดฟันโดยการการเช็ดด้วยผ้าที่ซับน้ำ ตลอดจนเรียนรู้วิธีการบ้วนปากหลังแปรงฟันทุกครั้ง ระหว่าง3ขวบถึง 4ขวบ เป็นเวลาที่เด็กจะได้เริ่มเรียนรู้การแปรงฟันด้วยตนเอง การเลือกแปรงสีฟันให้ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งแปรงสีฟันจะต้องเหมาะกับมือของเด็กวัย 3 ขวบที่ยังจับไม่ถนัด แต่จะต้องสามารถแปรงเข้าถึงจุดที่ยากจะเข้าถึงได้

การดูดนิ้วหรือหัวนมปลอมในระหว่างฟันเริ่มขึ้น ช่วง6เดือนถึง 12เดือนแรก อาจนำไปสู่ปัญหาการสบกันผิดปกติของฟันหลายประการ อย่างเช่น ฟันหน้าสบเปิด (open bite) ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกระหว่างการเคี้ยว หรือฟันเสื่อมก่อนวัย ดังนั้น ควรให้เด็กเลิกดูดนิ้วหรือหัวนมปลอมก่อนอายุ3ขวบ เพื่อไม่ให้กลายเป็นนิสัยซึ่งอาจจะสร้างปัญหาต่อการพัฒนาสุขภาพช่องปากและฟันในอนาคต เมื่ออายุได้3ถึง 5 ขวบ ต้องหมั่นไปพบทันตแพทย์ทุกหกเดือน เนื่องจากการนัดตรวจฟันจะช่วยให้สามารถตรวจพบฟันผุหรือความผิดปกติของฟันแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะทำให้แก้ปัญหาได้ง่ายกว่า

อายุมากกว่า 6 ขวบ

หลังจากอายุครบ 6 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งสำหรับเด็ก เพราะฟันน้ำนมเริ่มหลุดและฟันแท้จะเริ่มขึ้น นอกจากนี้บริเวณโดยรอบพื้นผิวของฟันกรามที่เป็นฟันน้ำนมเสี่ยงที่จะผุได้ง่ายกว่า ดังนั้น ผู้ปกครองควรเริ่มให้เด็กใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดบริเวณนั้น และที่สำคัญ เมื่อฟันกรามแท้ซี่แรกเกิดขึ้นควรใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เข้มข้น 1500 ppm เมื่อเด็กมีอายุครบ 8 - 9 ขวบ ผู้ปกครองควรช่วยแก้ไขท่าทางการแปรงหากจำเป็น เพื่อที่เด็กๆจะไม่ติดนิสัยการดูแลสุขอนามัยในช่องปากที่ไม่ถูกต้อง ควรใส่ใจทำความสะอาดด้านข้างของฟันซึ่งคราบจุลินทรีย์มักก่อตัวและเป็นจุดที่เด็กมักไม่ค่อยแปรงเนื่องจากเป็นบริเวณที่ยากจะเข้าถึง