หลายคนมักสับสนระหว่างคราบจุลินทรีย์กับหินปูน ทั้งสองอย่างเกี่ยวข้องกันอย่างไร อ่านต่อ เกี่ยวกับการขจัดคราบจุลินทรีย์และหินปูน
คราบจุลินทรีย์คือชั้นแบคทีเรียเหนียวๆ ไร้สีที่ค่อยๆก่อตัวบนผิวฟัน การก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ทำให้สะสมคราบด่างบนฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือก
คราบจุลินทรีย์จะเริ่มก่อตัวบนฟัน 4 ถึง 12 ชั่วโมงหลังจากการแปรงฟัน ดังนั้น สิ่งสำคัญคือเราควรแปรงฟันวันละสองครั้งและใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง และทำอย่างต่อเนื่องเป็นเป็นกิจวัตร
จะกำจัดคราบจุลินทรีย์ได้อย่างไร
เพื่อป้องกันการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์บนฟันต้องไม่ลืมที่จะใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง และแปรงฟันวันละสองครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
การใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงไขว้ จะช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์ได้สูงถึง 90% และต้องเปลี่ยนแปลงทุก ๆ สามเดือนหรือเมื่อเห็นขนแปรงเสื่อมสภาพ ยิ่งไปกว่านั้นการกลั้วคอด้วยน้ำยาที่มีสารต่อต้านแบคทีเรีย (อย่างเช่น CPC) เป็นประจำจะช่วยป้องกันการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์บนฟันและปัญหาเกี่ยวกับเหงือก ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและทำความสะอาดฟัน หากตรวจพบมีคราบจุลินทรีย์สะสม ทันตแพทย์จะขูดคราบจุลินทรีย์สะสมที่แข็งตัวขึ้น (หรือที่รู้จักกันว่าคราบหินปูน)
หินปูนคืออะไร
แคลเซี่ยมและฟอสเฟตจะผสมกันแล้วก่อตัวเป็นผลึกเกาะบนฟัน ท้ายที่สุดจะจับตัวแข็งเป็นคราบจุลินทรีย์ ก่อตัวเป็นหินปูน อาทิ หินปูนที่ก่อตัวขึ้นบนฟัน สารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่าไพโรฟอสเฟสนั้นจะช่วยยับยั้งไม่ให้ผลึกหินปูนสะสมบนผิวฟัน ช่วยลดหินปูนไม่ให้ก่อตัว
คุณสามารถป้องกันการก่อตัวของหินปูนได้โดย:
พบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยในการขจัดหินปูนและคราบจุลินทรีย์ทุก ๆ 6 เดือนหรือบ่อยกว่านั้น ใช้ยาสีฟันสูตรพิเศษที่มีส่วนผสมของไพโรฟอสเฟสซึ่งจะเกาะติดกับผิวฟันและช่วยยับยั้งการก่อตัวของหินปูน และแปรงฟันด้วยยาสีฟัน Oral-B Pro-Expert ซึ่งมีโซเดียมเฮกซาเมตต้าฟอสเฟต ไม่เพียงแต่จะช่วยยับยั้งหินปูน แต่ยังช่วยขจัดคราบที่เกิดจากชากาแฟบนผิวฟัน และทำหน้าที่เสมือนเกราะป้องกันไม่ให้เกิดคราบขึ้นในอนาคตอีกด้วย